สำหรับใครที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ปวดตุ๊บ ๆ ข้างเดียว หรือมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่า จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเคยได้ยินการรักษาแบบใหม่ คือการฉีดยาแก้ไมเกรน ซึ่งถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงหลัง เพราะเป็นทางเลือกที่ช่วยป้องกันไมเกรนจากต้นเหตุ แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่า ยาฉีดไมเกรนปลอดภัยจริงหรือไม่ และมีผลข้างเคียงอะไรที่ต้องระวังบ้าง

การฉีดยาแก้ไมเกรนคืออะไร
ฉีดยาแก้ไมเกรน คือการรักษาโดยใช้ยากลุ่ม CGRP Monoclonal Antibody ซึ่งออกฤทธิ์โดยตรงกับสาร CGRP (Calcitonin Gene-Related Peptide) สารที่เกี่ยวข้องกับการขยายหลอดเลือดและการกระตุ้นอาการปวดหัวในผู้ป่วยไมเกรน
ยาฉีดไมเกรน เช่น Aimovig, Ajovy, Pontevia หรือ Vyepti ช่วยลดความถี่ และลดความรุนแรงของอาการไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องกินยาแก้ปวดบ่อย ๆ และเหมาะกับผู้ที่มี ไมเกรนเรื้อรัง หรือไม่ตอบสนองต่อยาทั่วไป

ยาฉีดไมเกรนปลอดภัยไหม?
โดยทั่วไป ยาฉีดไมเกรนถือว่าปลอดภัยสูง เพราะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในไทยและต่างประเทศ (เช่น FDA สหรัฐฯ) และผ่านการทดสอบทางคลินิกในผู้ป่วยหลายหมื่นรายทั่วโลก
ข้อดีคือ ยาออกฤทธิ์เฉพาะจุด ไม่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย และไม่มีผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารหรือตับเหมือนยากลุ่ม NSAIDs หรือยาแก้ปวดทั่วไป นอกจากนี้ การฉีดเพียงเดือนละหนึ่งครั้ง (หรือทุก 3 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของยา) ยังช่วยลดภาระในการใช้ยาในระยะยาวได้อย่างมาก

ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
แม้ยาฉีดไมเกรนจะปลอดภัย แต่ก็อาจมี ผลข้างเคียงเล็กน้อย ที่พบได้บ้าง เช่น

• ปวดหรือบวมบริเวณที่ฉีด
• เหนื่อยล้าเล็กน้อยในช่วงวันแรกหลังฉีด
• ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้มักหายไปภายใน 1–2 วัน และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ผู้ที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ให้นมบุตร หรือผู้ที่มีประวัติแพ้ยาในกลุ่มโปรตีนโมโนโคลนอล

การฉีดยาแก้ไมเกรน เป็นวิธีรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไมเกรนเรื้อรัง หรือไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาแก้ปวดทั่วไป ผลข้างเคียงมีน้อยและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ภายใต้การดูแลของแพทย์
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ปวดหัวไมเกรนบ่อยและกำลังมองหาทางออกที่ยั่งยืน ที่ เฮชเอทคลินิก มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท พร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการฉีดยาแก้ไมเกรน ด้วยยามาตรฐานสากลค่ะ