ราคาทองคำพุ่งส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณและทองคำพุ่งสูงขึ้นแต่กลับมีระดับราคาที่ไม่เท่ากัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เกิดจากอะไร ใครที่อยากรู้เราได้สรุปมาให้แล้ว ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าทองรูปพรรณและทองคำแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ทองรูปพรรณ คืออะไร

ทองรูปพรรณเป็นการนำทองคำมาขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับลักษณะต่าง ๆ เช่น สร้อยคอ กำไลข้อมือ สร้อยข้อมือ ต่างหู ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีลวดลายที่แตกต่างกันทำให้ราคาทองรูปพรรณขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลวดลาย หากเป็นลายที่ทำยากจะมีราคาสูงกว่าปกติเพราะต้องใช้ฝีมือและเวลาในการออกแบบนาน

ทองคำแท่ง คืออะไร

ทองคำแท่งเป็นการนำทองคำมาหล่อขึ้นรูปเป็นทรงแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าและประทับตราของร้านทองไว้เท่านั้น ซึ่งจะมีขนาดตั้งแต่ไม่ถึง 1 บาท ไปจนถึงหลายสิบบาทขึ้นไป โดยทองคำแท่งจะมีค่าบล็อก หรือ ค่าพรีเมี่ยมเล็กน้อยเป็นค่าแรงในการทำทอง หากยิ่งซื้อเยอะร้านทองอาจจะไม่คิดค่าบล็อก

ทำไมราคาทองรูปพรรณกับราคาทองคำไม่เท่ากัน

ราคาทองรูปพรรณและทองคำจะมีระดับราคาที่ไม่เท่ากัน โดยทองรูปพรรณจะมีราคาที่สูงกว่าเนื่องจากมีค่ากำเหน็จคือค่าออกแบบของช่างทองคำตามความยากง่ายของการออกแบบซึ่งทองคำแท่งก็จะมีค่าบล็อกเช่นกันแต่จะมีราคาที่ต่ำกว่า ทำให้เมื่อซื้อทองรูปพรรณจะได้ในราคาที่แพงกว่า แต่เมื่อนำทองรูปพรรณไปขายคืนจะไม่ได้ค่ากำเหน็จคืนและอาจถูกหักไม่เกิน 5% ของราคาทองคำขณะที่ขายตามกำหนดของ สคบ. เนื่องจากการใส่ทองรูปพรรณเป็นเครื่องประดับอาจทำให้เกิดการสึกหรอของทองได้

หากคุณต้องการซื้อทองคำเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ในอนาคตการซื้อทองคำจะเหมาะสมกว่าเพราะซื้อไว้เพียงนำไปเก็บเท่านั้น ทองคำแท่งที่เก็บไว้จะไม่เกิดการสึกกร่อนตามกาลเวลาและจะคงอยู่ตลอดไป เมื่อนำไปขายจึงยังได้ราคาเต็มน้ำหนักทอง แต่หากคุณต้องการซื้อเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับและคงมูลค่าของเครื่องประดับของคุณไว้ การซื้อทองรูปพรรณจะตอบโจทย์คุณมากที่สุด เพราะนอกจากจะนำมาใส่เป็นเครื่องประดับได้แล้วยังนำไปขายได้ราคาดีไม่เหมือนเครื่องประดับอื่นๆ ที่เก็บไว้ราคาก็ตกไม่สามารถขายได้และไม่คงทน