ปวดศีรษะ ตำแหน่งไหน บ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นอะไรได้บ้าง

อาการปวดศีรษะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคยเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือสาเหตุอื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ตำแหน่งที่ปวดศีรษะ สามารถบอกได้ว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาสุขภาพอะไรอยู่บ้าง บทความนี้ขอพามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งของอาการปวดศีรษะนั้นสามารถสื่อถึงอะไรได้บ้างค่ะ
ปวดศีรษะบริเวณหน้าผากและขมับ
ไมเกรน (Migraine)
หากคุณมีอาการปวดศีรษะที่มักเกิดข้างเดียว หรือบางครั้งปวดสลับข้าง ลักษณะการปวดมักเป็นแบบตุบ ๆ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แพ้แสง และเสียงร่วมด้วย นี่อาจเป็น ไมเกรน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีและการไหลเวียนของเลือดในสมอง
ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension Headache)
หากรู้สึกปวดตึงรอบศีรษะ คล้ายมีอะไรมารัด มักเกิดจากความเครียด การใช้สายตานาน ๆ หรือการนั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน อาการนี้พบได้บ่อยที่สุดและมักดีขึ้นเมื่อพักผ่อนหรือทำกิจกรรมผ่อนคลาย
อาการไซนัสอักเสบ (Sinus Headache)
หากคุณมีอาการปวดศีรษะร่วมกับอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือปวดรอบจมูกและโหนกแก้ม อาจเกิดจาก ไซนัสอักเสบ อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อก้มศีรษะหรือนอนราบ
ปวดศีรษะบริเวณขมับข้างเดียว
ไมเกรน
มักเกิดที่ข้างเดียวของศีรษะและรุนแรงขึ้นเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น เสียงดัง แสงจ้า หรือการอดนอน
ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache)
ลักษณะการปวดรุนแรงมาก เกิดขึ้นเฉียบพลันและปวดเป็นรอบ ๆ อาจมีอาการน้ำตาไหล ตาแดง หรือคัดจมูกข้างเดียวร่วมด้วย มักเกิดขึ้นช่วงเวลาเดิมของวัน
ปวดศีรษะด้านหลังหรือท้ายทอย
ปวดศีรษะแบบเครียด
เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ตึงตัวจากการทำงานหรือความเครียด ทำให้ปวดร้าวไปที่ท้ายทอย
ความดันโลหิตสูง (Hypertension Headache)
มักมีอาการปวดตื้อ ๆ บริเวณท้ายทอย โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือหลังตื่นนอน หากไม่ได้รับการดูแล อาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
ปัญหากระดูกต้นคอเสื่อม
อาจเกิดจากการนั่งผิดท่าหรืออายุที่มากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะบริเวณท้ายทอยและร้าวลงไปที่คอและไหล่
ปวดศีรษะรอบดวงตาหรือหลังลูกตา
ไมเกรน
มีอาการปวดตุบ ๆ รอบดวงตา อาจมีอาการเห็นแสงวูบวาบก่อนปวดร่วมด้วย
ต้อหิน (Glaucoma)
อาจมีอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน ตาพร่ามัว ตาแดง หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้สูญเสียการมองเห็น
ไซนัสอักเสบ
หากปวดศีรษะรอบดวงตาพร้อมกับอาการคัดจมูกและน้ำมูก อาจเป็นสัญญาณของไซนัสอักเสบ
ปวดศีรษะบริเวณกลางกระหม่อม
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration Headache)
หากดื่มน้ำน้อยหรือเสียเหงื่อมาก อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะบริเวณกลางศีรษะร่วมกับอาการเวียนศีรษะ
ปวดศีรษะจากความเครียดและนอนไม่พอ
อาการปวดมักไม่รุนแรง แต่มีลักษณะตื้อๆ และเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ปวดศีรษะรุนแรงและเฉียบพลัน
ภาวะเลือดออกในสมอง (Brain Hemorrhage)
หากปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการของภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
ปวดศีรษะรุนแรง มีไข้สูง คอแข็ง และอาจมีอาการสับสนหรือเวียนศีรษะร่วมด้วย ควรพบแพทย์ทันที
เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์? หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
• ปวดศีรษะรุนแรงและฉับพลัน
• ปวดศีรษะร่วมกับอาการอ่อนแรงหรือพูดไม่ชัด
• ปวดศีรษะเรื้อรังและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
• มีไข้สูง คอแข็ง หรือสับสน
• ปวดศีรษะหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
วิธีบรรเทาอาการปวดศีรษะเบื้องต้น หากเป็นอาการปวดศีรษะทั่วไปจากความเครียดหรือไมเกรน สามารถบรรเทาได้โดย
• พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้สายตาหนักเกินไป
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนหรือออกกำลังกายหนัก
• นวดกดจุด บริเวณขมับ คอ และไหล่เพื่อช่วยผ่อนคลาย
• ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ หรือเดินเล่น เพื่อลดความเครียด
• หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรืออาหารที่กระตุ้นไมเกรน
อาการปวดศีรษะอาจเป็นเพียงอาการเล็กน้อยที่หายได้เอง แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านรักษาอาการปวดศีรษะที่ดูแลคุณอย่างใส่ใจ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและสมอง ทำการรักษาและวินิจฉัยด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ติดตามผลการรักษาอย่างใส่ใจ เพราะเราอยากให้คุณหายจากอาการปวดหัวค่ะ