รีโนเวทบ้านใหม่ควรเปลี่ยนถังบำบัดน้ำเสียด้วยหรือไม่
ปกติแล้วอายุของสิ่งปลูกสร้างทั่วไปจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยประมาณ 30-50 ปี หลังจากนั้นจะเสื่อมโทรมมากจนต้องรีโนเวทหรือรื้อทิ้งเพื่อปลูกสร้างใหม่ ทีนี้หลายคนก็สงสัยว่าเมื่อต้องรีโนเวทบ้าน จำเป็นจะต้องรื้อระบบถังบำบัดน้ำเสียกันใหม่ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นงานระบบใต้ดินที่รื้อได้ค่อนข้างยุ่งยาก และอาจต้องลงทุนทั้งเงินและแรงงานคนมากสักหน่อยในบางพื้นที่ งานนี้ต้องพิจารณาหลายปัจจัยถึงจะตอบได้ว่าการรื้อถังบำบัดน้ำเสียนั้นคุ้มค่าหรือไม่
คุ้มกว่าแน่นอนถ้าเป็นถังบำบัดน้ำเสียแบบเก่า
ถังบำบัดน้ำเสียก็เหมือนกับอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านประเภทอื่น ที่มีการพัฒนาและดัดแปลงให้มีคุณสมบัติดีขึ้นเรื่อยๆ บ้านไหนที่ก่อสร้างมาหลายสิบปีและมีระบบบำบัดน้ำเสียแบบเก่า ซึ่งมีลักษณะเป็นวงท่อซีเมนต์ที่เรียงต่อกันแล้วเชื่อมท่อพีวีซีกันเอง แบบนี้รื้อแล้วเปลี่ยนเป็นถังบำบัดน้ำเสียรุ่นใหม่ดีกว่า เพราะท่อซีเมนต์จะมีปัญหามากหลังผ่านการใช้งานไปนานๆ และจำเป็นต้องดูดส้วมเป็นระยะ ในขณะที่ถังรุ่นใหม่จะทนทานและมีอาจไม่ต้องดูดส้วมให้ยุ่งยากเลย ถ้าคำนวณปริมาณการใช้งานไว้ดีพอ
ถังบำบัดน้ำเสียรุ่นใหม่ที่เสื่อมสภาพแล้วก็ต้องเปลี่ยน
บางบ้านเลือกใช้เป็นถังบำบัดน้ำเสียรุ่นใหม่ ที่มีการแยกส่วนและมีถังตกตะกอนซึ่งย่อยสลายกากเองได้แล้ว แต่เมื่อตรวจสอบสภาพกลับพบว่าตัวถังผ่านการใช้งานมานานจนเสื่อมโทรม ต่อให้ยังไม่มีร่องรอยของความเสียหายก็ควรเปลี่ยนถังใบใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อให้หลังจากรีโนเวทบ้านและใช้งานไปสักพักหนึ่งแล้ว ไม่ต้องมาตามแก้ปัญหาจุกจิกในภายหลัง เรียกว่าทำให้จบไปเลยในคราวเดียวดีกว่า
ขนาดครอบครัวเปลี่ยนถังบำบัดน้ำเสียก็ต้องเปลี่ยน
สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดก็คือ ถังบำบัดน้ำเสียรุ่นใหม่ไม่มีวันที่มันจะเต็มและต้องดูดออกเลย ความจริงคือต่อให้มันมีระบบย่อยสลายก็เต็มได้เหมือนกัน หากการใช้งานไม่สมดุลกับปริมาณการรองรับของตัวถัง ดังนั้น ถ้าครอบครัวของเรามีคนเพิ่มมากขึ้น ถังบำบัดตัวเดิมก็ต้องเปลี่ยนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย