เชื่อว่าใครหลายคนคงมีปัญหาผมร่วงผมบางแต่ไม่รู้ว่าจะรักษาผมร่วงยังไงให้ได้ผล ทายาก็แล้ว กินยาก็แล้วผมก็ไม่ขึ้นสักที จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจต้องสวมหมวกตลอด การปลูกผมถาวรน่าจะเป็นการรักษาที่ดีที่สุด เรามาดูกันดีกว่าว่าการปลูกผมมีวิธีการรักษาอย่างไร

การรักษาผมร่วงด้วยการปลูกผมถาวรเป็นวิธีการรักษาที่จะทำให้ผมกลับมาแข็งแรง อยู่ถาวรพร้อมผมที่ดูหนาขึ้น โดยปกติแล้วผู้ที่จะทำการปลูกผมถาวรควรมีอายุประมาณ 20-25 ปีขึ้นไป หากใครมีอายุต่ำกว่า 20 ปี แพทย์จะไม่ทำการปลูกผมให้เพราะกะโหลกของผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี จะยังโตไม่เต็มที่หากทำการปลูกผมถาวรไปแล้วจะไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร

โดยขั้นตอนของการปลูกผมนั้น เริ่มแรกแพทย์จะทำการวิเคราะห์หนังศีรษะของผู้เข้ารับการปลูกผมถาวรก่อนว่าจะทำการปลูกผมบริเวณไหน และต้องปลูกผมถาวรมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจะพาคนไข้ไปสระผมด้วยแชมพูฆ่าเชื้อโรค เมื่อสระผมเสร็จแล้วแพทย์จะทำการฉีดยาชาพร้อมให้ยานอนหลับอย่างอ่อน เพื่อให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและไม่เจ็บปวดระหว่างการปลูกผม ต่อมาแพทย์จะทำการตัดหนังบริเวณท้ายทอยของคนไข้ตามจำนวนที่แพทย์ได้วิเคราะห์ไว้ และทำการเย็บแผลบริเวณที่ตัดให้เรียบร้อย จากนั้นแพทย์จะนำหนังศีรษะที่ได้ทำการตัดออกมาไปส่องกล้องจุลทรรศน์ และหั่นให้เป็นกราฟท์ แล้วจะนำไปปลูกตามบริเวณต่างๆที่ต้องการ ซึ่งใช้เข็มที่มีขนาดเล็กพิเศษเปิดให้มีจุดช่องว่างแล้วใส่กราฟท์ลงไปบริเวณที่จะปลูก โดยปกติแล้วจะใช้เวลาปลูกผมประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดปลูกเป็นจำนวนมากๆก็จะใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง รวมเวลาผ่าตัดไปอีกก็ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อการรักษา 1 ครั้ง ซึ่งจะทำการรักษากี่ครั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความมากน้อยของผมที่ปลูก โดยเฉลี่ยแล้วจะทำการรักษาประมาณ 2-4 ครั้ง

หากใครอยากปลูกผมถาวรพร้อมกับการรักษาผมร่วงไปด้วย แนะนำปลูกผมด้วยโปรแกรม Ur cell Hair Micro Transplant ที่ Nida Esth’ เพราะเป็นเทคโนโลยีการปลูกผมที่สามารถรักษาผมร่วงไปด้วย ที่สำคัญเลยผู้ทำการรักษาจะไม่เจ็บเพราะรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องการผ่าตัด ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยเพราะทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านปลูกผมโดยเฉพาะ